[Review] How to train your dragon 2025
เมื่อหนุ่มชาวไวกิ้งไม่สามารถจะสังหารมังกรที่อันตรายที่สุดได้ เขาจึงได้เริ่มต้นการสร้างตำนานบทใหม่ด้วยการเป็น "พี่เลี้ยงมังกร"
![[Review] How to train your dragon 2025](/content/images/size/w1200/2025/06/LAND_16_9.jpg)
สารภาพมาก่อนเลยว่าผมไม่เคยดู animation ของ How to train your dragon มาก่อน แต่เคยพบเจอน้องเขี้ยวกุดมาบ้าง ตามไทม์ไลน์ในโซเชียลมีเดีย แต่พอได้มาดูภาพยนตร์จริงๆ แล้วคิดว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งรูปแบบการเล่าเรื่อง และการไล่ระดับความสัมพันธ์ของตัวละคร รวมถึงการผูกปมต่าง ๆ
ใครที่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แนะนำให้ข้ามบทความนี้ไปก่อน อาจจะมีการกล่าวถึงเนื้อหาสำคัญ
เรื่องราวเริ่มต้นที่พื้นที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่า เบิร์ค เป็นดินแดนของชาวไวกิ้ง ที่มักจะพบเจอกับมังกร หลายสายพันธ์ุที่เข้ามาก่อกวนในช่วงก่อนฤดูหนาว โดยมังกรสายพันธุ์ที่อันตรายที่สุดก็คือ เพลิงนิล ซึ่งก็คือเจ้าเขี้ยวกุดของเรานั่นเอง
ตัวละครหลัก
ฮิกคัพ บุตรชายของผู้นำดินแดนแห่งนี้ ผู้ซึ่งไม่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้กับมังกรเลย อยู่มาวันนึงเขาได้ยิง มังกรเพลิงนิล (เขี้ยวกุด) ตกลงมาจากฟ้า โดยที่คนในหมู่บ้านไม่มีใครเชื่อเขาเลย แม้กระทั่งพ่อของเขา ฮิกคัพจึงได้เดินทางตามรอยของมังกรตัวนี้ไป แล้วพบว่า มันได้ถูกอาวุธที่เขายิงทำร้ายเข้าที่หางด้านหลัง ทำให้มันไม่สามารถจะบินได้ตามปกติ
ด้วยความที่เขาเป็นคนมีเมตตา เขาไม่สามารถจะฆ่ามังกรเพลิงนิลตัวนี้ได้ เขาจึงพยายามช่วยให้มันกลับมาบินได้อีกครั้ง ด้วยการสร้างปีกจำลองให้เขี้ยวกุด ระหว่างการไล่ระดับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมังกร ฮิกคัพได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมังกรมากมาย เช่น มังกรไม่ชอบปลาไหล, มังกรเคลิ้มเมื่อตกโดนเกาคาง (มังกรหรือแมว เอาดีๆ ) หรือบางตัวอาจจะสามารถล่อด้วยแสงสะท้อนได้ หลังจากนั้นเขี้ยวกุดก็ได้กลายมาเป็นสหายคนสำคัญของเขาในที่สุด
วัฒนธรรมบนเกาะ
เบิร์คเป็นหนึ่งในดินแดนที่อยู่ใกล้กับรังมังกรมากที่สุด แต่ก็ยังเป็นสถานที่รวบรวมไวกิ้งนักปราบมังกรเป็นจำนวนมาก การที่ฮิกคัพแทบจะไม่มี DNA จะปราบมังกร ทำให้เขาเป็นตัวละครที่โดดเด่นในบรรดาคนทั้งหมดได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก เราจะสังเกตได้จากฉากแรก ๆ ที่ทุกคนมีบทบาทกันหมด แต่ฮิกคัพจะถูกบังคับให้ไปหลบซ่อน คนบนเกาะจะมีวิธีการปราบมังกรแบบยุคเก่าก็คือใช้กำลังมากกว่าวิธีทุ่นแรง แต่ฮิกคัพเลือกที่จะใช้อุปกรณ์ของเขาแทนที่จะไปสู้กับมังกรโดยตรง โดยที่เขายังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย
กลุ่มเพื่อน
ผมเคยได้ยินมาว่า ฮิกคัพไม่ค่อยจะเป็นคนที่มีเพื่อนสักเท่าไร ประมาณว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ห่วยในเรื่องมังกรเอามากๆ การเล่าเรื่องในพาร์ทนี้ของภาพยนตร์ เพื่อนของเขาจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันทั้งในเชิงนิสัย และความสามารถด้วย ซึ่งในระหว่างทางฮิกคัพก็จะค่อย ๆ มีเพื่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากความสามารถในการจัดการกับมังกรอันน่าทึ่งของเขา แม้ว่า แอทริซ สาวที่เขาหลงรักจะดูสงสัยกับพฤติกรรมแปลกอันน่าเหลือเชื่อของเขาก็ตาม
ครอบครัว
ครอบครัวของฮิกคัพนั้นเคยถูกมังกรสังหาร (แม่) ทำให้ สโตอิก (พ่อ) ผูกใจเจ็บกับมังกรพอสมควร สโตอิกพยายามอย่างมากที่จะให้ฮิกคัพกลับมาอยู่ในลู่ทางของนักปราบมังกร นอกจากที่เขาไม่ยอมรับเขี้ยวกุด อีกทั้งยังใช้เขี้ยวกุดเป็นเครื่องมือในการพาไปรังมังกรเพื่อหวังจะจัดการมังกรทั้งหมด แม้สุดท้ายไม่สำเร็จ แต่ Stoick ก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขี้ยวกุดไปลุยกับอสูรร้ายได้สำเร็จ
การต่อสู้กับอสุรร้าย
ฮิกคัพกับผองเพื่อน รวมถึงบรรดามังกรได้ร่วมมือการในการจัดการอสุรร้าย โดยอาศัยทั้งไหวพริบเกี่ยวกับข้อจำกัดของมังกรที่ กอปเปอร์ ผู้ฝึกนักรบมังกรได้กล่าวไว้ในตอนแรก ๆ จนถึงกลางเรื่อง น้องเขี้ยวกุดของเราก็มีบทบาทสำคัญค่อนข้างมาก เราจะเห็นได้ว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกลงในตำรานั้นไม่มีประโยชน์อะไรอย่างที่เพื่อนของฮิกคัพกล่าวจริง ๆ เพราะในหนังสือนั้นจะระบุเฉพาะประเภทของมังกรที่เคยเจอ และไม่มีรายละเอียดของเขี้ยวกุดแม้แต่น้อยเลย
หลังดูจบ ผมคิดว่า How to train your dragon เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับคนทุกเพศวัย หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของเขี้ยวกุดมาก่อน สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย แล้วพวกคุณจะตกหลุมรักเจ้าเขี้ยวกุดแบบไม่มีข้อสงสัยแน่นอน